สมุนไพรกับยาแผนปัจจุบัน..กินด้วยกันดีมัย้
รองศาตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง
ผู้ช่วยอาจารย์ เภสัชกร วสุ ศุภรัตนสิทธิ
ปจั จุบันการนำผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบมาใช้นั้นเป็น
ที่นิยมอย่างแพร่หลาย ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งได้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ร่วมกับยารักษาโรคแผนปจั จุบัน จึงเป็นไป
ได้ว่าอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาแผนปจั จุบันกับสมุนไพร (Herb-drug interactions) ปญั หาส่วนใหญ่เกิดจาก
ผู้ที่ใช้สมุนไพรมองข้ามการให้ข้อมูลในส่วนนี้ ไม่ได้แจ้งให้แพทย์ผู้ทำการรักษาทราบว่าตนกำลังใช้สมุนไพรใด
อยู่ จึงอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ได้โดยเฉพาะการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับสมุนไพรนั้นอาจจะค่อยๆ เกิดขึ้น
โดยไม่อาจสังเกตเห็น จนกระทัง่ ผู้ป่วยเกิดอันตรายหรือมีผลต่อร่างกายอย่างรุนแรง
รายงานเกี่ยวกับปฏิกิริยาระหว่างยากับสมุนไพรยังมีน้อย บุคลากรที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น
แพทย์ เภสัชกร จึงควรตระหนักและให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้สมุนไพรร่วมกับยา ตลอดจนข้อควรระวัง เพื่อป้องกัน
อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับสมุนไพร
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับสมุนไพร สามารถอธิบายได้ 2 รูปแบบ คือ
ปฏิกิริยาทางเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic interactions) โดยยาหรือสมุนไพรมีผลเปลี่ยนแปลง
การดูดซึม การกระจายตัว เมแทบอลิซึม (Metabolism) และการขับถ่ายยาออกจากร่างกาย ซึ่งทำให้
ปริมาณของยาหรือสมุนไพรที่ออกฤทธิเ์พิ่มขึ้นหรือลดลง
ปฏิกิริยาทางเภสัชพลศาสตร์ (Pharmacodynamic interactions) โดยยาหรือสมุนไพรมีผลเปลี่ยนแปลง
การออกฤทธิ์ของยาที่เนื้อเยื่อหรืออวัยวะเป้ าหมาย ทำให้ยาหรือสมุนไพรแสดงฤทธิ์เพิ่มขึ้น
(Synergistic effects) หรือลดลง (Antagonist effects)
จากรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ พบว่าสมุนไพรบางชนิด มีผลการศึกษารายงานว่าเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับ
สมุนไพร ส่งผลกระทบต่อการรักษาอย่างชัดเจน เช่น เซนต์จอห์นเวิร์ท (St.John’s Wort; Hypericum
perforatum Linn) หรือ เกรปฟรุต (Grapefruit; Citrus paradisi Macfad) ที่เริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทย
ในขณะเดียวกัน มีกรณีศึกษา (Case reports) จากผู้ป่วยหลายรายที่เกิดความผิดปกติในร่างกายเมื่อใช้
ยาร่วมกับสมุนไพร ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากกว่าข้อมูลจากทฤษฎีหรือจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ
(ในหลอดทดลองหรือสัตว์ทดลอง) อย่างไรก็ตามการให้ข้อมูลต่างๆ เช่น ระยะเวลาที่เริ่มเกิดอาการ ความ
รุนแรง และอาการที่เกิดขึ้น ในกรณีศึกษายังมีข้อจำกัดหลายด้าน จึงต้องตระหนักด้วยว่ารายงานเพียง 1-2
รายงาน อาจไม่ใช่หลักประกันของการห้ามใช้สมุนไพรร่วมกับยานั้นๆ การติดตามผลการรักษาหรือสังเกตความ
ผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น หากมีการใช้สมุนไพรร่วมกับยาแผนปจั จุบัน
ตัวอย่างจากรายงาน
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กลไกการเกิดปฏิกิริยา
แปะก๊วย
(Ginkgo biloba Linn)
แอสไพริน
(Aspirin); ยาแก้ปวด
ลดการเกาะตัวของ
เกล็ดเลือด
วาร์ฟาริน
(Warfarin); ยาต้านการ
แข็งตัวของเลือด
มีโอกาสเลือดออกง่าย และ
แข็งตัวช้า
กิงโกไลด์ บี (Ginkgolide B) ที่เป็น
สารสำคัญในแปะก๊วยมีผลยับยัง้ การเกาะ
กลุ่มของเกล็ดเลือด (1-3)
ตังกุย
(Angelica
sinensis [Oliv.] Diels)
วาร์ฟาริน
(Warfarin); ยาต้านการ
แข็งตัวของเลือด
มีโอกาสเลือดออกไหลไม่
หยุด
คูมารินส์ (Coumarins) ที่เป็นกลุ่ม
สารสำคัญในตังกุยยับยัง้ การเกาะกลุ่มของ
เกล็ดเลือด (4)
คาร์โมไมล์
(Chamomila;
Matricaria Chamomilla
Linn)
คูมารินส์ (Coumarins) ที่เป็นกลุ่ม
สารสำคัญในคาร์โมไมล์ยับยัง้ การเกาะกลุ่ม
ของเกล็ดเลือด (5)
โกจิ หรือ เก๋าคี่
(Goji; Lycium
barbarum Linn)
ยังไม่ทราบกลไก (6, 7)
กระเทียม
(Allium sativum Linn)
อะไลซิน (Allicin) และอะโจอีน (Ajoene) ที่
เป็นสารสำคัญในกระเทียม ยับยัง้ การเกาะ
กลุ่มของเกล็ดเลือด (8)
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กลไกการเกิดปฏิกิริยา
ชา ชาเขียว
(Camellia sinensis
Linn)
วาร์ฟาริน
(Warfarin); ยาต้านการ
แข็งตัวของเลือด
ไม่ได้ผลการรักษาจากยา วิตามินเค (vitamin K) ในชาเขียวให้ผล
ต้านการออกฤทธิข์ องยา (9)
กรดโฟลิก
(Folic acid); ยาบำรุง
เลือด
ไม่ได้ผลการรักษาจากยา ชา ชาเขียว ยับยัง้ การดูดซึมของกรดโฟ
ลิก (10)
ซิมวาสตาติน
(Simvastatin);
ยาลดไขมันในเลือด
ชนิดยับยัง้ เอนไซม์เอช
เอ็มจี-โคเอ รีดักเทส
(HMG-CoA reductase
inhibitors)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น เกิดพิษต่อตับ
กล้ามเนื้อสลาย
ยังไม่ทราบกลไก (11)
เซนต์จอห์นเวิร์ท
(St.John’s Wort;
Hypericum perforatum
Linn)
ไซโคลสปอริน
(Cyclosporin); ยากด
ภูมิคุ้มกัน
ลดระดับยาไซโคลสปอรินใน
เลือด ทำให้ไม่เกิด
ผลการรักษาจากยา
ไฮเปอร์ริซิน (Hypericin) ที่เป็นสารสำคัญ
ในเซนต์จอห์นเวิร์ท อาจกระตุ้นเมแทบอลิ
ซึมของยาผ่านเอนไซม์ Cytochrome
P450 3A4 (CYP 3A4) ที่ตับ ทำให้ยาถูก
ทำลายมากขึ้น(12, 13)
อินดินาเวีย
(Indinavir); ยารักษา
โรคเอดส์ ชนิดยับยัง้
เอนไซม์โปรตีเอส
(Protease inhibitor)
ลดระดับยาอินดินาเวียใน
เลือด ทำให้ไม่เกิด
ผลการรักษาจากยา
ดิจอกซิน
(Digoxin); ยารักษา
โรคหัวใจ
ลดระดับดิจอกซินในเลือด
ทำให้ไม่เกิดผลการรักษา
จากยา
ไฮเปอริซิน (Hypericin) อาจเพิ่มการ
ทำงานของพี-ไกลโคโปรตีน (Pglycoprotein)
ที่บริเวณผิวเซลล์บุทางเดิน
อาหาร ทำหน้าที่ขับยาออกจากเซลล์ ทำ
ให้การดูดซึมยาลดลง (14)
ยาในกลุ่มต้านอาการ
ซึมเศร้าชนิดยับยัง้ การ
เก็บกลับของเซโรโตนิน
(Selective serotonin
re-uptake inhibitors)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น เกิด serotonin
syndrome
ประกอบด้วยอาการปวด
ท้อง ท้องเสีย เหงื่อแตก
สะบัดร้อนสะบัดหนาว
อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น
อ่อนเพลีย สับสน สัน่
ไฮเปอริซิน (Hypericin) มีผลกระตุ้นการ
หลัง่ เซโรโตนิน (15)
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กลไกการเกิดปฏิกิริยา
โสม
(Panax ginseng C.A.
Mayer)
อิมาทินิบ
(Imatinib); ยาต้าน
มะเร็ง ชนิดยับยัง้
เอนไซม์ไทโรซีน
โปรตีน ไคเนส
(Tyrosine protein
kinase)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น เป็นพิษต่อตับ
จินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) ที่เป็น
สารสำคัญในโสม ยับยัง้ การทำงานของ
เอนไซม์ Cytochrome P450 3A4 (CYP
3A4) ที่ตับ ทำให้เมแทบอลิซึมของยา
ลดลง ทำให้ยาอยู่ในร่างกายยาวนานขึ้น
(16, 17)
ฟิเนลซิน
(Phenelzine);
ยาต้านอาการซึมเศร้า
ชนิดยับยัง้ เอนไซม์โม
โนเอมีน ออกซิเดส
(Monoamine oxidase
inhibitor)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น เพิ่มการกระตุ้น
ระบบประสาท
จินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) ที่เป็น
สารสำคัญในโสม ยับยัง้ การทำงานของ
cAMP phosphodiesterase ทำให้เพิ่มการ
กระตุ้นระบบประสาท(18, 19)
คาวา
(Kava; Piper
methysticum G.Forst)
อัลพราโซแลม
(Alprazolam); ยาคลาย
กังวล
กดประสาทมากขึ้นจนเกิด
อาการโคม่า
คาวาแลกโทน (Kavalactones) ที่เป็นกลุ่ม
สารสำคัญในคาวาเสริมฤทธิส์ ารสื่อ
ประสาทกาบา (GABA) มีผลทำให้เกิดการ
กดระบบประสาทส่วนกลาง (16)
เกรปฟรุต
(Grapefruit; Citrus
paradisi Macfad)
แอมโลไดปีน
(Amlodipine)
เฟโลไดปีน
(Felodipine)
ไนโซไดปีน
(Nisodipine)
ไนเฟไดปีน
(Nifedipine);
ยาลดความดันโลหิต
ชนิดยับยัง้ ประตู
แคลเซียม (Calcium
channel blockers)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น ความดันโลหิต
ลดลงมาก
นารินจิน (Naringin) ที่เป็นสารสำคัญใน
เกรปฟรุตยับยัง้ การทำงานของเอนไซม์
Cytochrome P450 3A4 (CYP 3A4) ที่ตับ
ทำให้เมแทบอลิซึมของยาลดลง และกด
การทำงานของพี-ไกลโคโปรตีน (Pglycoprotein)
ซึ่งทำหน้าที่ขับยาออกจาก
เซลล์ ทำให้ยาอยู่ในร่างกายยาวนานขึ้น
(17)
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น กลไกการเกิดปฏิกิริยา
เกรปฟรุต
(Grapefruit; Citrus
paradisi Macfad)
ไซโคลสปอริน
(Cyclosporin); ยากด
ภูมิคุ้มกัน
อาการข้างเคียงของยา
cyclosporine เพิ่มขึ้นได้แก่
การติดเชื้อ และ ไตทำงาน
ลดลง และเพิ่มความดัน
โลหิตสูงขึ้น
นารินจิน (Naringin) ที่เป็นสารสำคัญใน
เกรปฟรุตยับยัง้ การทำงานของเอนไซม์
Cytochrome P450 3A4 (CYP 3A4) ที่ตับ
ทำให้เมแทบอลิซึมของยาลดลง และกด
การทำงานของพี-ไกลโคโปรตีน (Pglycoprotein)
ซึ่งทำหน้าที่ขับยาออกจาก
เซลล์ ทำให้ยาอยู่ในร่างกายยาวนานขึ้น
(17)
อทอร์วาสตาติน
(Atorvastatin)
โลวาสตาติน
(Lovastatin)
ซิมวาสตาติน
(Simvastatin);
ยาลดไขมันในเลือด
ชนิดยับยัง้ เอนไซม์เอช
เอ็มจี-โคเอ รีดักเทส
(HMG-CoA reductase
inhibitors)
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น เกิดพิษต่อตับ
กล้ามเนื้อสลาย
ไมดาโซแลม
(Midazolam)
ไตรอะโซแลม
(Triazolam); ยาคลาย
กังวล
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น กดประสาท
มากขึ้นจนเกิดอาการโคม่า
ชะเอม
(Glycyrrhiza glabra
Linn)
เพรดนิโซโลน
(Prednisolone); ยา
ต้านการอักเสบส
เตียรอยด์
อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น กดภูมิคุ้มกัน
ของร่างกาย เกิดแผลใน
กระเพาะอาหาร กระดูกพรุน
กลีเซอไรซิน (Glycyrrhizin) ที่เป็น
สารสำคัญในชะเอมยับยัง้ การทำงานของ
เอนไซม์ 11-เบตา-ดีไฮดรอซีเลส (11-betadehydroxylase)
ที่ตับทำให้เมแทบอลิซึม
ของยาลดลง (18)(18)(18)(18)(18)(18)ทำ
ให้ยาอยู่ในร่างกายยาวนานขึ้น(22)
การศึกษาในปจั จุบันยังคาดการณ์การใช้สมุนไพรและยาแผนปจั จุบัน ว่าอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา
กับสมุนไพรได้ในทางทฤษฎีได้ โดยกลไกการเกิดคล้ายคลึงกับในกรณีที่มีรายงาน หรือ กรณีศึกษา เช่นกัน
ตัวอย่างจากการคาดการณ์ทางทฤษฎี
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กลไกที่คาดว่าจะเกิดปฏิกิริยา
ขมิ้น (Curcuma longa
Linn.)
ยาช่วยให้เลือดแข็งตัว
ช้า (Anticoagulant /
Antiplatelet drugs)
มีโอกาสเลือดออกง่าย และแข็งตัวช้า เคอร์คิวมิน (Curcumin) ที่เป็น
กลุ่มสารสำคัญในขมิ้นชัน ยับยัง้
การเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด (23)
โสม
(Panax ginseng C.A.
Mayer)
ยาในกลุ่มรักษา
โรคเบาหวาน
(Anti-diabetic drugs)
มีโอกาสหน้ามืด เป็นลม วิงเวียน
ศีรษะ
เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
(hypoglycemia)
สารประกอบเค (Compound K) ที่
เป็นสารสำคัญในโสม อาจกระตุ้น
การทำงานของอินซูลิน (Insulin)
ในร่างกาย (24)
ยาในกลุ่ม estrogen มีโอกาสเกิดสภาวะโรคไวต่อการ
ตอบสนองของฮอร์โมน (Hormonesensitive
conditions) เช่น มะเร็งเต้า
นม (breast cancer), มะเร็งมดลูก
(uterine cancer)
โสม (Panax ginseng)
ประกอบด้วยสารเคมี
(ginsenosides) ซึ่งสามารถออก
ฤทธิค์ ล้ายกับ แอสโตรเจน
(estrogen) (31,32)
ขิง ( Zingiber
officinale)
ยาช่วยให้เลือดแข็งตัว
ช้า (Anticoagulant /
Antiplatelet drugs)
มีโอกาสเลือดออกง่าย และแข็งตัวช้า gingerol และ shogaol
สารสำคัญในขิง ยับยัง้ การเกาะ
กลุ่มของเกล็ดเลือด (30)
ว่านหางจระเข้
Aloe vera L. ดิจอกซิน
(Digoxin); ยารักษา
โรคหัวใจ
อาจทำ ให้อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ การ
ม อ ง เ ห็น ผิด ป ก ติ ป ว ด ศีร ษ ะ
อ่อนเพลีย ง่วงซึม
อะโลอิน(aloin)ที่เป็นสารสำคัญ
ในว่านหางจระเข้ กระตุ้นการขับ
โพแทสเซียม (Potassium) (25)
ยาเพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม
(สเตียรอยด์และยาขับ
ปสั สาสะ)
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม มีโอกาสทำเกิด
อาการไฮโปคาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อ
ล้า ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ ใจเต้น
ระริก
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กลไกที่คาดว่าจะเกิดปฏิกิริยา
ว่านหางจระเข้
Aloe vera L.
ทีโอฟีลีน
(Theophylline); ยา
ขยายหลอดลม
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม มีโอกาสทำเกิด
อาการไฮโปคาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อ
ล้า ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้น
ระริก
อะโลอิน(aloin)ที่เป็นสารสำคัญใน
ว่านหางจระเข้ กระตุ้นการขับ
โพแทสเซียม (Potassium) (25)
ชะเอม
(Glycyrrhiza glabra
Linn)
ยาในกลุ่มรักษาโรค
ความดันโลหิตสูง
(Anti-hypertensive
drugs)
อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมความดัน
โลหิตได้ เมื่อใช้ยาในขนาดปกติ
กลีเซอไรซิน (Glycyrrhizin) ที่
เป็นสารสำคัญในชะเอม กระตุ้น
การขับโพแทสเซียม (Potassium)
ออก และทำให้เกิดการดูดน้ำ
กลับในร่างกาย(19)
ดิจอกซิน
(Digoxin); ยารักษา
โรคหัวใจ
อาจทำให้อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ การ
มองเห็นผิดปกติ ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย ง่วงซึม
ยาเพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม
(สเตียรอยด์และยาขับ
ปสั สาสะ)
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม มีโอกาสทำเกิด
อาการไฮโปคาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อ
ล้า ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้น
ระริก
ทีโอฟีลีน
(Theophylline); ยา
ขยายหลอดลม
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม มีโอกาสทำเกิด
อาการไฮโปคาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อ
ล้า ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้น
ระริก
มะขามแขก (Senna
alexandrina P.Mille) ดิจอกซิน
(Digoxin); ยารักษา
โรคหัวใจ
อาจทำให้อาการข้างเคียงของยา
เพิ่มขึ้น เช่น หัวใจเต้นผิดปกติ การ
มองเห็นผิดปกติ ปวดศีรษะ
อ่อนเพลีย ง่วงซึม
เซนนอไซด์ (sennosiide) ที่เป็น
สารสำคัญในมะขามแขก กระตุ้น
การขับโพแทสเซียม (Potassium)
ออก (27)
ยาเพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของ
โปแตสเซียม มีโอกาสทำเกิด
เอกสารอ้างอิง
1. Diamond BJ, Bailey MR. Ginkgo biloba: indications, mechanisms, and safety. Psychiatr Clin
North Am. 2013;36(1):73-83.
2. Pedroso JL, Henriques Aquino CC, Escorcio Bezerra ML, Baiense RF, Suarez MM, Dutra LA, et
al. Ginkgo biloba and cerebral bleeding: a case report and critical review. Neurologist.
2011;17(2):89-90.
3. Benjamin J, Muir T, Briggs K, Pentland B. A case of cerebral haemorrhage-can Ginkgo biloba
be implicated? Postgrad Med J. 2001;77(904):112-3.
4. Page RL, 2nd, Lawrence JD. Potentiation of warfarin by dong quai. Pharmacotherapy.
1999;19(7):870-6.
5. Segal R, Pilote L. Warfarin interaction with Matricaria chamomilla: CMAJ. 2006 Apr
25;174(9):1281-2.
6. Lam AY, Elmer GW, Mohutsky MA. Possible interaction between warfarin and Lycium barbarum
L. Ann Pharmacother. 2001;35(10):1199-201.
7. Leung H, Hung A, Hui AC, Chan TY. Warfarin overdose due to the possible effects of Lycium
barbarum L. Food Chem Toxicol. 2008;46(5):1860-2.
(สเตียรอยด์และยาขับ
ปสั สาสะ)
อาการไฮโปคาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อ
ล้า ตะคริว ปวดกล้ามเนื้อ หัว
ใจเต้นระริก
สมุนไพร ยาแผนปัจจุบัน ปฏิกิริยาที่คาดว่าจะเกิดขึ้น กลไกที่คาดว่าจะเกิดปฏิกิริยา
มะขามแขก (Senna
alexandrina P.Mille)
ทีโอฟีลีน
(Theophylline); ยา
ขยายหลอดลม
อาจทำให้เพิ่มการขับออกของโปแต
สเซียม มีโอกาสทำเกิดอาการไฮโป
คาลีเมีย ได้แก่ กล้ามเนื้อล้า ตะคริว
ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นระริก
เซนนอไซด์ (sennosiide) ที่เป็น
สารสำคัญในมะขามแขก กระตุ้น
การขับโพแทสเซียม (Potassium)
ออก (27)
เอคินาเซีย
(Echinacea
angustifolia DC.)
ไซโคลสปอริน
(Cyclosporin); ยากด
ภูมิคุ้มกัน
อาจทำให้ผลของยาอาจลดลง เอคินาเซียมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
(28)
วาเลอเรียน( Valeriana
officinalis L)
ยากล่อมประสาท
( benzodiazepine และ
เหล้า)
อาจมีผลเพิ่มการกดประสาทของยา ยากรดวาเลเรนิกในวาเลอเรียน
ยับยัง้ เอนไซม์ทำลายสารสื่อ
ประสาท (GABA) ทำให้ GABA
เพิ่ม มีผลกดการทำงานของระบบ
ประสาท ส่วนกลาง (29)
8. Rose KD, Croissant PD, Parliament CF, Levin MB. Spontaneous spinal epidural hematoma with
associated platelet dysfunction from excessive garlic ingestion: a case report. Neurosurgery.
1990;26(5):880-2.
9. Taylor JR, Wilt VM. Probable antagonism of warfarin by green tea. Ann Pharmacother.
1999;33(4):426-8.
10. Alemdaroglu NC, Dietz U, Wolffram S, Spahn-Langguth H, Langguth P. Influence of green and
black tea on folic acid pharmacokinetics in healthy volunteers: potential risk of diminished folic
acid bioavailability. Biopharm Drug Dispos. 2008;29(6):335-48.
11. Werba JP, Giroli M, Cavalca V, Nava MC, Tremoli E, Dal Bo L. The effect of green tea on
simvastatin tolerability: Ann Intern Med. 2008 Aug 19;149(4):286-7.
12. Ruschitzka F, Meier PJ, Turina M, Luscher TF, Noll G. Acute heart transplant rejection due to
Saint John's wort: Lancet. 2000 Feb 12;355(9203):548-9.
13. Piscitelli SC, Burstein AH, Chaitt D, Alfaro RM, Falloon J. Indinavir concentrations and St John's
wort: Lancet. 2000 Feb 12;355(9203):547-8.
14. Johne A, Brockmoller J, Bauer S, Maurer A, Langheinrich M, Roots I. Pharmacokinetic
interaction of digoxin with an herbal extract from St John's wort (Hypericum perforatum). Clin
Pharmacol Ther. 1999;66(4):338-45.
15. Lantz MS, Buchalter E, Giambanco V. St. John's wort and antidepressant drug interactions in
the elderly. J Geriatr Psychiatry Neurol. 1999;12(1):7-10.
16. Bilgi N, Bell K, Ananthakrishnan AN, Atallah E. Imatinib and Panax ginseng: a potential
interaction resulting in liver toxicity. Ann Pharmacother. 2010;44(5):926-8.
17. Goey AK, Mooiman KD, Beijnen JH, Schellens JH, Meijerman I. Relevance of in vitro and
clinical data for predicting CYP3A4-mediated herb-drug interactions in cancer patients. Cancer
Treat Rev. 2013;39(7):773-83.
18. Jones BD, Runikis AM. Interaction of ginseng with phenelzine: J Clin Psychopharmacol. 1987
Jun;7(3):201-2.
19. Shader RI, Greenblatt DJ. Phenelzine and the dream machine--ramblings and reflections: J Clin
Psychopharmacol. 1985 Apr;5(2):65.
20. Almeida JC, Grimsley EW. Coma from the health food store: interaction between kava and
alprazolam: Ann Intern Med. 1996 Dec 1;125(11):940-1.
21. Seden K, Dickinson L, Khoo S, Back D. Grapefruit-drug interactions. Drugs. 2010;70(18):2373-
407.
22. Chen MF, Shimada F, Kato H, Yano S, Kanaoka M. Effect of oral administration of glycyrrhizin
on the pharmacokinetics of prednisolone. Endocrinol Jpn. 1991;38(2):167-74.
23. Shah BH, Nawaz Z, Pertani SA. Inhibitory effect of curcumin, a food spice from turmeric, on
platelet-activating factor- and arachidonic acid-mediated platelet aggregation through inhibition
of thromboxane formation and Ca2+ signaling. Biochem Pharmacol 1999;58:1167-72
24. Liao YR, Leu YL, Chan YY, Kuo PC, Wu TS. Anti-platelet aggregation and vasorelaxing
effects of the constituents of the rhizomes of Zingiber officinale. Molecules. 2012 Jul
26;17(8):8928-3
25. Saka W, Akhigbe R, Popoola O, Oyekunle O. Changes in Serum Electrolytes, Urea, and
Creatinine in Aloe Vera-treated Rats.J Young Pharm. 2012 Apr;4(2):78-8
26. Celik MM, Karakus A, Zeren C, Demir M, Bayarogullari H, Duru M, et al. Licorice induced
hypokalemia, edema, and thrombocytopenia. Hum Exp Toxicol. 2012;31(12):1295-8.
27. Ritsema GH, Eilers G . Potassium supplements prevent serious hypokalaemia in colon
cleansing.. Clin Radiol. 1994 Dec;49(12):874-6
28. Zhai Z, Liu Y, Wu L, Senchina DS, Wurtele ES, Murphy PA, Kohut ML, Cunnick JE.
Enhancement of innate and adaptive immune functions by multiple Echinacea species.J Med Food.
2007 Sep;10(3):423-34
29. Murphy K1, Kubin ZJ, Shepherd JN, Ettinger RH. Valeriana officinalis root extracts have potent
anxiolytic effects in laboratory rats. Phytomedicine. 2010 Jul;17(8-9):674-8
30. Jiang S, Ren D, Li J, Yuan G, Li H, Xu G, et al. Effects of compound K on hyperglycemia and
insulin resistance in rats with type 2 diabetes mellitus. Fitoterapia. 2014;5:58-64.
31. Cho J, Park W, Lee S, et al. Ginsenoside-Rb1 from Panax ginseng C.A. Meyer activates
estrogen receptor-alpha and -beta, independent of ligand binding. J Clin Endocrinol Metab
2004;89:3510-5.
32. Lee YJ, Jin YR, Lim WC, et al. Ginsenoside-Rb1 acts as a weak phytoestrogen in MCF-7
human breast cancer cells. Arch Pharm Res 2003;26:58-63.
บทความที่ได้รับความนิยม
-
รองศาสตราจารย์ รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยาเขียวเป็นตำรับยาไทย ตามองค์ความร...
-
ใช้ของผู้หญิงได้หรือไม่? รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปจั จุบันจะพบว่ามีการโฆษ...
-
นศภ. ดวงกมล กฤษณพิพัฒน์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แพ้ยา คืออะไร ? การแพ้ยาคือปฏิกิริยาที่ร่างกาย...
-
รองศาสตราจารย์ยุวดี วงษ์กระจ่าง นางสาวน้อม นิรมร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ความเครียด ส่วนหนึ่งมาจากความคิดของคนเรานั้นเอง คนที่...
-
รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กระแสนิยมของการรักสุขภาพของผู้คนในยุคป...
-
อาจารย์ ปองทิพย์ สิทธิสาร ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ การเจริญเติบโตของสังคมเมืองแ...
-
นศภ. ธีรภัทร์ เสนะเปรม นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โรคอ้วนตามแนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและดูแล...
-
รองศาสตราจารย์ ดร. ชะอรสิน สุขศรีวงศ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อผู้บริโภคเกิดปญั หาหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจ...
-
รองศาสตราจารย์แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์และแมวที่มีมายาวนาน ตัง้ แ...
-
รองศาสตราจารย์ ดร. ชะอรสิน สุขศรีวงศ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถึงแม้ยาที่ผลิตมานั้นจะผ่านกระบวนการผลิตตามหลักเกณ...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น