บทความที่ได้รับความนิยม

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เชื้อโปรโตซัว และจิตเภท



รองศาสตราจารย์แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ
ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์และแมวที่มีมายาวนาน ตัง้ แต่การเลี้ยงแมวเพื่อใช้ในจับหนูหรือสัตว์อื่นๆ
ที่คอยทำลายธัญญพืช-ผลผลิตทางเกษตร ในปจั จุบันแมวเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมประจำบ้าน ที่แน่นอนว่า
ต้องเกี่ยวข้องกับโรค-เชื้อก่อโรคชนิดต่างๆได้แก่ แบคทีเรีย โรคจากรา โปรโตซัว และพยาธิ แต่โรคทางจิต
เภทมีความสัมพันธ์เช่นใดกับแมว
ตำราที่เขียนในปีค.ศ. 1896 โดย Kraepelin ที่กล่าวถึงข้อสังเกตว่าโรคจิตเภทที่เรียกว่า dementia
praecox หรือ schizophrenia อาจเกิดจากโรคติดเชื้อที่ส่งผลต่อสมอง และมีผู้ตัง้ สมมติฐานถึงโรคจิตเภทที่
อาจเกิดจากความอ่อนแอทางกายภาพหรือแม้แต่จากโรคติดเชื้อบางชนิด ต่อมา พบว่าในผู้ป่วยที่มีความ
ผิดปรกติทางพฤติกรรมบางอย่าง มีผลสืบเนื่องจากโรคติดเชื้อ เช่น โรคมาเลเรีย เมื่อติดเชื้อโปรโตซัว
Plasmodium โรคไข้ง่วงหลับหรือ sleeping sickness จากเชื้อ Trypanosoma เป็นต้น มีการรวบรวมและ
วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากโดย Torrey เมื่อปี 2549 ที่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนมากขึ้น ระหว่างผู้ป่วยจิต
เภทและการติดเชื้อโปรโตซัว Toxoplasma gondii (T. Gondii)
T. gondii เป็นโปรโตซัวที่อาศัยในเซลล์ การสืบพันธุ์มีทัง้ อาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ ทำให้พบ
รูปร่างมากกว่าหนึ่งแบบ ได้แก่ Oocyst, Tachyzoites, Bradyzoites พัฒนาจาก Tachyzoites โดยเจริญ
แบ่งตัวช้าๆเพื่อปรับให้ดำรงชีพอยู่ได้ในเนื้อเยื่อเช่น กล้ามเนื้อ สมอง เซลล์ประสาท ของเจ้าบ้าน ทำให้เกิด
อาการโรคที่เรื้อรังในโฮสท์เจ้าบ้าน (definitive host) ซึ่งเป็นสัตว์ในวงศ์ Felidae ได้แก่ แมวบ้านทัง้ หลายนี้
เอง นอกจากนี้ ยังพบ T. gondii ได้ในสัตว์กัดแทะ เช่น หนู ในสัตว์เศรษฐกิจเช่น หมู วัว ควาย แพะ แกะ
และสัตว์ที่คนนำมาเป็นอาหาร
โรค Toxoplasmosis ที่พบครัง้ แรกในสัตว์ฟนั แทะที่แอฟริกาเหนือ และติดต่อมาสู่คนได้จึงเป็นโรค
จากสัตว์สู่คน (zoonosis) ที่พบทัว่ โลก จากการที่แมวกินเนื้อสัตว์ที่มี bradyzoites หรือกิน oocyst ที่
ปนเปื้อนในดิน โดยในลำไส้แมว oocyst แตกตัวเป็น sporozoite มีการสืบพันธุ์แบบมีเพศเพิ่มจำนวนอยู่ใน
ลำไส้ ท้ายสุดอุจจาระของแมวนี้มี oocyst ปนเปื้อนออกมา ในลักษณะไข่ที่มีเปลือกหุ้มและทนทานต่อ
สภาพแวดล้อมภายนอก ทำให้เกิดการปนเปื้อนอยู่ในดิน ในธรรมชาติ แปลงผัก พืช ผลไม้ ส่วนสัตว์ชนิด
ต่างๆ เช่น สัตว์กินเนื้อหรือสัตว์กินพืช ที่กิน oocyst เข้าไป จะเจริญเป็น cyst ในกล้ามเนื้อหรือ bradyzoites
ในคนนั้นจะเกิดโรค toxoplasmosis เมื่อกิน bradyzoites หรือ oocyst โดยได้เชื้อที่ปนเปื้อน
ดังต่อไปนี้
-บริโภคเนื้อสัตว์เช่น เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อวัว ที่มี cyst และปรุงแบบสุกๆดิบ
-ได้รับเชื้อจากการปนเปื้อนในลักษณะ
-ทำงานเกี่ยวข้องกับเนื้อสัตว์ที่มีโปรโตซัวแล้วใช้มือที่ปนเปื้อนหยิบจับอาหาร
2
-การใช้ภาชนะ มีด เขียงที่ปนเปื้อนจากการใช้กับเนื้อสัตว์ที่มีโปรโตซัว
-การรับเชื้อหลังสัมผัสกับมูลแมว
-ทำความสะอาดถาดขับถ่ายของแมวที่ขับโปรโตซัวออกมาในการถ่ายมูล
-การสัมผัส-กินหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนมูลแมวหรือดินที่ปนเปื้อน
-การให้เลือด การปลูกถ่ายอวัยวะ แต่พบได้น้อยมาก
-การถ่ายทอดจากครรภ์มารดาสู่ทารก
นอกจากนี้ การกำจัดมูลแมวเลี้ยงตามบ้านเรือนทัว่ ไป ที่ทำให้แพร่สิ่งปนเปื้อนจากอุจจาระสัตว์เลี้ยง
นี้ไปสู่สิ่งแวดล้อมและสัตว์ชนิดอื่น เช่น ตามแถบทะเลชายฝงั่ แคลิฟอร์เนีย ทำให้นากและสัตว์ทะเลอื่นตาย
จากโปรโตซัวนี้
การก่อโรคในคน
1. การติดเชื้อ Toxoplasma ที่ไม่แสดงอาการ
การติดเชื้อ Toxoplasma ในคนที่สุขภาพแข็งแรง เชื้อนี้จะสงบอยู่ คนได้ T. gondii จากการ
บริโภคเนื้อสัตว์ที่มี cyst โดยไม่ปรุงสุกด้วยความร้อน และจากการกินและดื่มสิ่งที่ปนเปื้อน oocyst จากสัตว์
เลี้ยงใกล้ตัวในชีวิตประจำวันเช่น แมว ซึ่งระยะติดต่อจากแมวสามารถแพร่กระจายได้ง่าย จากการที่แมวเดิน
ไปได้ทัว่ ไม่จำกัดบริเวณ หรือการที่คนได้ระยะติดต่อจากการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม คนส่วนใหญ่ที่กล่าว
มานี้ ไม่แสดงอาการใดๆ
2. การติดเชื้อ Toxoplasma ที่แสดงอาการ
ในคนส่วนน้อย การติดเชื้อ T. gondii อาจปรากฏอาการอย่างอ่อน ส่วนการติดโรคในผู้สูงอายุ
ผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้ป่วยเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ อาการเจ็บป่วยที่พบมีระดับความ
รุนแรงต่างกัน โดยทัว่ ไปคือ ปวดศีรษะ มีไข้ ตามต่อมต่างๆบวมโต ปวดกล้ามเนื้อ และอาการที่คล้าย
ไข้หวัดทัว่ ไป การได้รับเชื้อสายพันธุ์ที่รุนแรงในผู้ป่วยที่อ่อนแอทำให้พบการติดเชื้อที่ปอด หรืออวัยวะ
ภายในหลายตำแหน่ง รายงานจากสหรัฐอเมริกาและบราซิลที่พบการติดเชื้อที่ตา ทำให้เจ็บปวด แพ้แสง
น้ำตาไหลและมองไม่เห็นภาพ
การสำรวจในสหรัฐอเมริกา พบว่าประชากรผู้ใหญ่ร้อยละ 10 ถึง 50 มีการสัมผัส (expose) T.
gondii จากจำนวนประมาณการ คนในสหรัฐ 2839 คน จากจำนวน 1075242 คน แสดงอาการโรคทาง
สายตาจากการติดเชื้อ T. gondii และมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการติดเชื้อนี้สูงถึง 3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
2.1 การติดเชื้อจากมารดาสู่ทารก
การติดเชื้อลักษณะนี้ เกิดระหว่างที่มารดาตัง้ ครรภ์ มีส่วนน้อยและมักเป็นผู้ที่ภูมิต้านทาน
ต่ำที่ติดเชื้อก่อนตัง้ ครรภ์ ความรุนแรงของโรคในเด็กจะมากขึ้นเมื่อมารดารับเชื้อช่วงการตัง้ ครรภ์ 2-4 เดือน
แรก โดยความรุนแรงของการแสดงออกมีได้ตัง้ แต่ การแท้งบุตรจากการที่ระยะ tachyzoite ไปสู่ทารกใน
ครรภ์ หรือเด็กที่คลอดมีสัญญาณของ Toxoplasmosis เช่น ศีรษะบวมน้ำ (hydrocephalus หรือ
microcephalus) แคลเซียมเกาะในสมอง (cerebral calcification) และม่านตาส่วนหลังอักเสบ
3
(retinochorioditis) อาการที่อาจปรากฏในภายหลัง ได้แก่ อาการทางสายตาหรือที่เกี่ยวข้องกับประสาท ที่
รวมถึงความบกพร่องในการเรียนรู้เมื่อเด็กโตขึ้นหรือปญั ญาอ่อน ส่วนเด็กที่ได้รับผลกระทบต่อระบบ
ประสาทส่วนกลาง ทำให้ตาบอดหรือมีความผิดปรกติทางสมอง
2.2 การติดเชื้อในผู้ภูมิต้านทานต่ำ
ผู้ป่วยภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยเอดส์ มักพบภาวะสมองอักเสบ (toxoplasmosis
encephalitis) จากการที่มีการกระตุ้น cyst หรือ bradyzoite ในเนื้อเยื่อในผู้ป่วย ทำให้เกิดพยาธิสภาพของ
เซลล์ประสาท มีการอักเสบหรือสร้างสารประกอบที่เป็นพิษต่อเซลล์สมอง อาการที่พบได้แก่ ปวดศีรษะ
สับสน มีไข้ อ่อนแรง ที่อาจพัฒนาสู่การชัก หมดสติหรือ coma อาการอื่นนอกจากนี้ เช่น การพูดผิดปรกติ
อัมพฤกษ์ครึ่งซีก ปอดอักเสบ อาจพบเป็นผลจากการติดเชื้อหลังการให้เลือด การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะที่
ร่วมกับการให้สารกดภูมิคุ้มกัน
ความผิดปรกติอื่นที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อ T. gondii
การศึกษาของ Torrey (2549) ชี้ถึงความเชื่อมโยงที่น่าสนใจของระดับภูมิคุ้มกันต่อ T. gondii และ
ผู้ป่วยจิตเภท ซึ่งผลที่ได้ สอดคล้องกับการใช้เทคนิคที่เรียกว่า ELISA เพื่อตรวจระดับภูมิคุ้มกันในบทความ
ของ Cetinkaya (2550) จากตุรกี และรายงานในภาษาอื่นจากหลายภูมิภาค แสดงความเป็นได้ทางสถิติว่า
โรคจิตเภทมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อ T. gondii ซึ่งพบได้ทัว่ โลก ในปี 2556 Fond สรุปอาการทางคลินิก
ที่มีผลจากการติดเชื้อ T. gondii ได้แก่:
Toxoplasmosis และจิตเภท (Toxoplasmosis and schizophrenia) โดยเฉพาะในระหว่างการ
ตัง้ ครรภ์และช่วงต้นของชีวิต การศึกษาในสัตว์ พบว่าสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมในระยะที่
สัตว์โตเต็มที่ ในขณะที่ผู้ป่วยที่ผิดปรกติทางจิตจะตรวจพบระดับภูมิต้านทานที่สูงต่อ toxoplasma
Toxoplasmosis และโรคย้ำคิดย้ำทำ (Toxoplasmosis and Obsessive Compulsive Disorder:
(OCD) ระดับภูมิต้านทานชนิด IgG ต่อ toxoplasma ของผู้ป่วย OCD สูงกว่าที่พบในอาสาสมัครอย่างมี
นัยสำคัญ
Toxoplasmosis และความผิดปรกติของบุคคลิกภาพ (Toxoplasmosis and personality) ในเพศ
ชายพบอาการดื้อรัน้ ขี้อิจฉา ขาดความมัน่ ใจ ระมัดระวังเกินเหตุ ตัดสินใจช้า เจ้าระเบียบมากขึ้น ในสตรีจะ
รู้สึกไม่มัน่ คง มักแสร้งทำตัวศักดิส์ ิทธิ-์มีศีลธรรม
มีรายงานการเชื่อมโยงโรคจิตเภทและอัตวินิบาตกรรมกับการติดเชื้อ toxoplasma โดยนอกจากที่
ผู้ป่วยจิตเภทจะมีอัตราการตายจากการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆที่สูงกว่าคนทัว่ ไปแล้ว จากการศึกษา พบการ
บ่งชี้ถึงการอักเสบในสมองของผู้ทำอัตวินิบาตกรรมรวมถึงในบุคคลซึมเศร้า ในปี 2555 Zhang และคณะ
พบว่าในผู้ติดเชื้อ T. gondii อย่างรุนแรง มีระดับแนวโน้มในการทำอัตวินิบาตกรรมสูงในผู้ที่ไวในการแสดง
อาการ และเช่นเดียวกับในกลุ่มสตรีหลังหมดประจำเดือน
ผลการศึกษา-ผลการวิเคราะห์จากการรวบรวมข้อมูลข้างต้น ทำให้ผู้ที่อยู่ในสังคมที่ต้องสัมผัสกับ
ผู้ป่วยตัง้ แต่ผู้ที่มีความเครียดสูง ผู้มีความผิดปรกติทางจิต บุคคลิกและพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง จะต้อง
4
คำนึงถึงการตัดสินบุคคลเหล่านั้นจากสาเหตุด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษาการเลี้ยงดู และภาวะทางสังคม ฯลฯ
ว่าแท้จริงแล้ว ความผิดปรกติที่พบนั้น อาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อบางชนิด
ส่งผลกระทบต่อการแสดงออก/พฤติกรรมบางอย่าง ความเข้าใจเช่นนี้อาจนำไปสู่การปฏิบัติด้วยความเข้าใจ
และการรักษาแนวใหม่ต่อผู้ป่วยเหล่านี้
เอกสารอ้างอิง
1. Carruthers VB, Suzuki Y. Effects of Toxoplasma gondii infection on the brain. Schizophr
Bull. 2007;33: 745-751.
2. Cetinkaya Z, Yazar S, GeciciO, Namli MN. Anti-Toxoplasma gondii antibodies in patients
with schizophrenia- preliminary findings in a Turkish Sample. Schizophr Bull. 2007; 33 (3):
789-791.
3. Dickinson F, Boronow J, Stallings C, Origoni A, Yolken R. Toxoplasma gondii in Individuals
With Schizophrenia: Association With Clinical and Demographic Factors and With Mortality.
Schizophr Bull. 2007; 33(3): 737–740.
4. Fond G. et al. Toxoplasma gondii: a potential role in the genesis of psychiatric disorders.
Encephale. 2013; 39:38-43. (Abstract)
5. Hinze-Selch D, Da¨ubener W,Eggert L, Erdag S, Stoltenberg R,Wilms S. A controlled
prospective study of Toxoplasma gondii infection in individuals with schizophrenia: beyond
seroprevalence. Schizophr Bull. 2007; 33:782-788.
6. Ling VJ, Lester D, Bo Mortensen P, Langenberg PW, Postolache TT. Toxoplasma gondii
Seropositivity and Suicide rates in Women. J Nerv Ment Dis. 2011; 199(7): 440–444.
7. Postolache TT; et al. Toxoplasma gondii and suicidal behavior. Neurology, psychiatry and
brain research. 2012; 18:77.
8. Torrey EF, Bartko JJ, Lun ZR, Yolken RH. Antibodies to Toxoplasma gondii in patients with
schizophrenia: a meta analysis. Schizophr Bull. 2006; 33(3):729-736.
9. Torrey EF, Bartko JJ, Yolken RH. Toxoplasma gondii and other risk factors for
schizophrenia: an update. Schizophr. Bul. 2012; 38(3):642-647.
10. Zhang Y. et al. Toxoplasma gondii Immunoglobulin G Antibodies and Nonfatal Suicidal Self-
Directed Violence. J Clin Psychiatr. 2012; 73(8): 1069-1076.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น