บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ผักแปม สมุนไพรปรับสมดุล


อาจารย์ ปองทิพย์ สิทธิสาร
ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ การเจริญเติบโตของสังคมเมืองและเทคโนโลยี ทำให้คนเรามี
ความสะดวกสบายในชีวิตประจำมากขึ้น พร้อมๆไปกับการต้องเผชิญกับความเครียดทั้งจากการ
ทำงานอย่างเร่งรีบและแข่งขัน รวมทั้งความเสี่ยงที่จะได้รับสารพิษหรือสารก่อโรคจากมลภาวะใน
สิ่งแวดล้อมและเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้ร่างกายต้องพยายามปรับตัวและรักษาสมดุลให้อยู่ใน
สภาวะที่ดีอยู่เสมอ การได้รับสารที่ส่งเสริมให้ร่างกายมีสุขภาพดี จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้คนในยุคนี้
เป็นที่มาของคำว่า “สารปรับสมดุล” (adaptogens) ที่จะช่วยให้ร่างกายปรับสภาพให้สามารถทนทาน
ความเครียดทัง้ ทางกายภาพ ชีวภาพ และอารมณ์
มีผู้ให้คำจำกัดความของสารปรับสมดุลไว้หลายประการเช่น หมายถึงสารที่เพิ่มความสามารถ
ของร่างกายในการปรับตัวให้เข้ากับความเครียดที่แวดล้อมและภายในร่างกาย โดยการกระตุ้นระบบ
ภูมิคุ้มกัน ระบบประสาทและการทำงานของต่อมต่างๆภายในร่างกาย เพิ่มความทนทานของอวัยวะ
ต่างๆต่อความเครียด พยาธิสภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงรักษาการทำงานของระบบเมตาบอไลท์ของ
ร่างกายให้ปกติและมีประสิทธิภาพ มีฤทธิใ์ นการนำสมดุลกลับคืนสู่ร่างกาย (balancing) และบำรุง
ร่างกาย (tonic) นอกจากนี้ยังช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของคนเราโดยลดผลที่เกิดจากการถูกกระตุ้น
โดยปจั จัยต่างๆโดยเฉพาะความเครียด การอักเสบ และการเกิดออกซิเดชัน่ (oxidation)
พืชสมุนไพรที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในการปรับสมดุลมีหลายชนิดโดยเฉพาะรากของพืชใน
วงศ์โสม (Araliaceae) ได้แก่ โสมเกาหลี (Panax ginseng) โสมอเมริกัน (Panax quinquefolius) และ
โสมไซบีเรีย (Acanthopanax senticosus) รวมทั้งพืชสมุนไพรอื่นๆ เช่น ผลมะขามป้อม (Emblica
officinalis) ต้นปญั จขันธ์ (Gynostemma pentaphyllum) เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) ราก
ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra) ผลเก๋ากี้ (Lycium chinensis) และถัง่ เช่า (Cordyceps sinensis)
เป็นต้น สารสำคัญในพืชที่แสดงฤทธิป์ รับสมดุลที่มีรายงานนั้นมีหลายกลุ่ม ได้แก่ สารกลุ่มฟีโนลิก
(phenolics) เช่น eleutheroside B ในรากของโสมไซบีเรีย และ ellagic acid ในผลมะขามป้อม สาร
กลุ่มเทอร์พีนอยด์ (terpenoids) เช่น zeaxanthin ในผลเก๋ากี้ และไตรเทอร์พีนอยด์ซาโปนิน
(triterpenoid saponin) เช่น ginsenosides ในรากโสมเกาหลีและโสมอเมริกัน และ glycyrrhizin ใน
รากชะเอมเทศ
การศึกษาสมุนไพรปรับสมดุลของไทยนั้นยังมีไม่มากนัก ฤทธิข์ องสมุนไพรไทยตามตำรา
การแพทย์แผนไทยที่ใกล้เคียงกับการปรับสมดุลและต้านออกซิเดชันได้แก่ ถอนพิษ ฟอกโลหิต รักษา
ดีซ่าน รักษาโรคตับและบำรุงตับ บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต ทำให้ธาตุสมบูรณ์ บำรุงความ
กำหนัด แก้อ่อนเพลีย ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ และเป็นยาอายุวัฒนะ
ผักแปม (Acanthopanax trifoliatus) เป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรไทยที่อยู่ในวงศ์โสม มีลักษณะ
เป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 1 – 2 เมตร กิ่งก้านอ่อนจะเป็นสีเขียว มีหนามกระจายอยู่ทุกส่วนของลำต้น
2
ก้านใบยาว 5 – 6 เซนติเมตร ใบยาวรี รูปไข่ ขอบใบหยักคล้ายฟนั เลื่อย ปลายใบแหลม แต่ละก้านใบ
แยกเป็นใบย่อย 5 ใบ ทางภาคเหนือนิยมรับประทานใบอ่อนและยอดเป็นผักสดแกล้มกับลาบ หรือทำ
เป็นแกงอ่อม มีรสชาติฝาดขมเล็กน้อย ทางการแพทย์พื้นบ้านใช้ใบอ่อนและยอดแก้วัณโรค บำรุง
ร่างกาย รักษาอาการอ่อนเพลีย รักษาเลือดคัง่ ในแผลฟกช้ำ รากและเปลือกต้นใช้บำรุงร่างกาย แก้
ปวดหลังปวดกระดูก รักษาเบาหวาน รักษาอาการผอมแห้งแรงน้อย
มีรายงานการศึกษาวิจัยเบื้องต้นในหลอดทดลอง (in vitro) พบว่าส่วนต่างๆของผักแปมแสดง
ฤทธิใ์ นการต้านออกซิเดชัน่ ได้ดี โดยเฉพาะรากและใบอ่อน แสดงฤทธิท์ ี่ดีมากในการต้านอนุมูลอิสระ
DPPH ยับยั้งการเกิดออกซิเดชัน่ ของเซลล์สมองหนู และแสดงฤทธิย์ ับยั้งเอนไซม์อะเซทิลโคลีน
เอสเตอเรส (acetylcholine esterase) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเกิดอัลไซเมอร์ นอกจากนี้การศึกษาใน
สัตว์ทดลอง (in vivo) พบว่า สารสกัดน้ำของใบผักแปม แสดงฤทธิต์ ้านการวิตกกังวล ต้านอักเสบ และ
แสดงฤทธิใ์ นการส่งเสริมความจำและการเรียนรู้ในสัตว์ทดลอง และเมื่อศึกษาความเป็นพิษเฉียบพลัน
(acute toxicity) ในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดน้ำของใบผักแปมไม่แสดงความเป็นพิษ (LD50 มากกว่า
2 กรัม/กิโลกรัม น้ำหนักตัว)
ในใบผักแปมมีสารกลุ่มฟีโนลิกและฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูง เมื่อศึกษาเพิ่มเติมพบว่า
สารสำคัญที่แสดงฤทธิต์ ้านออกซิเดชัน่ ได้แก่ chlorogenic acid, caffeoylquinic acids, rutin,
isoqurcetin และ quercitrin ดังนั้น ผักแปม ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านของประเทศไทย จึงน่าจะเป็นสมุนไพร
ที่มีศักยภาพในการที่จะพัฒนาเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์และเภสัชกรรมโดยเฉพาะในด้านการ
ต้านออกซิเดชัน่ ส่งเสริมความจำและการเรียนรู้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การนำสมุนไพรซึ่งเป็นสารจาก
ธรรมชาติไปประยุกต์ใช้นั้น จำเป็นต้องมีการควบคุมคุณภาพ เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบสมุนไพร กระบวนการ
ผลิต และผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป โดยเฉพาะการกำหนดมาตรฐาน (standardization) และการทดสอบ
ความเป็นพิษ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรนั้นมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้
3
บรรณานุกรม
Sithisarn P, Jarikasem S, Thisayakorn K. Acanthopanax trifoliatus, a potential adaptogenic
Thai vegetable for health supplement. In: Iraj Rasooli, editor. Phytochemicals
bioactivities and impact on health. Rijeka: InTech; 2011. Page 253-268. ISBN 978-953-
307-424-5.
Sithisarn P, Rojsanga P, Jarikasem S, Tanaka K, Matsumoto K. Ameliorative effects of
Acanthopanax trifoliatus on cognitive and emotional deficits in olfactory bulbectomized
mice: an animal model of depression and cognitive deficits. Evidence-Based
Complementary and Alternative Medicine. 2013, Article ID 701956.
http://dx.doi.org/10.1155/2013/701956
Winston.D, Maimes S. Adaptogens herbs for strength, stamina and stress relief. Healing
Rochester: Arts Press; 2007. ISBN 978-1-59477-158-3.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น