บทความที่ได้รับความนิยม
-
รองศาสตราจารย์ รุ่งระวี เต็มศิริฤกษ์กุล ภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ยาเขียวเป็นตำรับยาไทย ตามองค์ความร...
-
ใช้ของผู้หญิงได้หรือไม่? รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปจั จุบันจะพบว่ามีการโฆษ...
-
นศภ. ดวงกมล กฤษณพิพัฒน์ นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล แพ้ยา คืออะไร ? การแพ้ยาคือปฏิกิริยาที่ร่างกาย...
-
รองศาสตราจารย์ยุวดี วงษ์กระจ่าง นางสาวน้อม นิรมร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ความเครียด ส่วนหนึ่งมาจากความคิดของคนเรานั้นเอง คนที่...
-
รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กระแสนิยมของการรักสุขภาพของผู้คนในยุคป...
-
อาจารย์ ปองทิพย์ สิทธิสาร ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อโลกเข้าสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ การเจริญเติบโตของสังคมเมืองแ...
-
นศภ. ธีรภัทร์ เสนะเปรม นักศึกษาฝึกปฏิบัติงานคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โรคอ้วนตามแนวทางเวชปฏิบัติการป้องกันและดูแล...
-
รองศาสตราจารย์ ดร. ชะอรสิน สุขศรีวงศ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อผู้บริโภคเกิดปญั หาหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจ...
-
รองศาสตราจารย์แม้นสรวง วุฒิอุดมเลิศ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สัมพันธภาพระหว่างมนุษย์และแมวที่มีมายาวนาน ตัง้ แ...
-
รองศาสตราจารย์ ดร. ชะอรสิน สุขศรีวงศ์ ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถึงแม้ยาที่ผลิตมานั้นจะผ่านกระบวนการผลิตตามหลักเกณ...
วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ผักผลไม้ป้องกันโรคมะเร็ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภก. วิเชษฐ์ ลีลามานิตย์
ภาควิชาชีวเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
มะเร็งเป็นโรคอันตรายที่ก่อให้เกิดปัญหาแก่วงการสาธารณสุขทั่วโลก สถิติทั่วโลกในปี 2012 พบว่า จากจานวนประชากร 7 พันกว่าล้านคน พบอัตราการตายจากโรคมะเร็งสูงถึง 8.2 ล้านคนทั่วโลก โดยผู้ชายพบเป็นมะเร็งปอดมากที่สุดและผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมมากที่สุด และมีผู้ป่วยมะเร็งใหม่เพิ่มขึ้น 14.1 ล้านคน ส่วนในประเทศไทยในปีเดียวกัน จากจานวนประชากรเกือบ 67 ล้านคน พบผู้เสียชีวิตด้วยมะเร็งสูงถึง 63,272 คน โดยพบมะเร็งปอดและมะเร็งเต้านมในเพศชายและเพสหญิงสูงสุดตามลาดับ
สาเหตุของมะเร็งนั้นมาจากอาหารและการดาเนินชีวิตสูงถึง 70% ปัจจัยจากพันธุกรรมเพียง 10% นอกจากนั้นก็มาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ไวรัส และมลพิษต่างๆ เป็นต้น จากปัจจัยและสาเหตุดังกล่าว การทานอาหารที่ถูกต้องจึงเป็นวิธีการหนึ่งในการป้องกันมะเร็งได้ดีที่สุด ซึ่งความเป็นจริงแล้วอาจช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อีกหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
สารอาหารที่ดีในแต่ละวัน ควรประกอบด้วย สารอาหารหลัก (Macronutrient) สารอาหารรอง (Micronutrient) และเส้นใยอาหาร (Fiber)
สารอาหารหลัก ก็ได้แก่ อาหารพวกคาร์โบไฮเดรท ไขมัน และโปรตีน
สารอาหารรอง ก็ได้แก่ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมีคอล และโพโลแซคคาไรด์
เส้นใยอาหาร นั้นมีทั้งชนิดละลายน้า และไม่ละลายน้า
“การทานพืชผักผลไม้ที่ดีที่สุด ควรทานให้มีความแตกต่างกันให้มากที่สุด โดยให้มีความแตกต่างไม่น้อยกว่า 10 ชนิด ในทุกวัน หรืออย่างน้อยที่สุดให้แตกต่างกันไม่น้อยกว่า 10 ชนิด ในหนึ่งสัปดาห์”
สารต้านอนุมูลอิสระจากพืช ช่วยลดการเป็นโรคหัวใจ ลดคลอเลสเตอรอล ชะลอความแก่ ลดอาการอักเสบ และลดการทาลายเซลล์
สารไฟโตเคมิคอลในพืช ช่วยป้องกันโรคได้มากมาย เสริมความสมบูรณ์และกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ยับยั้งและชะลอความรุนแรงของมะเร็งในทุกระยะ
สารพวกใยอาหารจากพืช ช่วยป้องกันมะเร็งและช่วยพื้นตัวจากมะเร็ง บรรเทาผลข้างเคียงจากเคมีบาบัด ใช้รักษามะเร็งหรือใช้ร่วมกับการรักษาอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย มีรายงานพบว่าการทานมังสวิรัติ สามารถลดความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งลงถึง 39%
สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีน พบในพืชที่มีสีต่างๆ ลูเทอีน พบในพืชใบเขียวเช่น ปวยเล้งและคะน้า ไลโคปีน พบในมะเขือเทศ ฟักข้าว แตงโม ฝรั่ง องุ่นแดง วิตามินเอ จากมันเทศ แครอท ฟัก
ข้าว วิตามินซี จากพืชตระกูลส้ม บล็อกโคลี พริกไทยสด วิตามินอี จากมะม่วง ผักใบ เขียวเข้ม น้ามันราข้าว น้ามันดอกคาฝอย เป็นต้น ในเมล็ดองุ่นมีสาร OPG ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก
สารไฟโตเคมิคอล มี 4 กลุ่มใหญ่
1. กลุ่มอินโดล (Indole) พบในดอกกะหล่า บล็อกโคลี
2. ไอโซไทโอไซยาเนต (Isothiocyanate) จากดอกกะหล่า คะน้า
3. ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) จากหัวหอม พืชตระกูลส้ม ผลเบอร์รี่
4. ไอโซฟลาโวน (Isoflavone) พบมากใน ถั่วเหลือง ซึ่งมีสาระสาคัญคือ เจนิสติน (Genistine) ซึ่งสามารถยับยั้งมะเร็ง นอกจากนี้สารตัวนี้สามารถยับยั้งโรคหัวใจได้ 80% มะเร็งเต้านม 26% สมองขาดเลือด 41% และหัวใจวาย 29%
“ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของร่างกายในการป้องกันมะเร็งและโรคอื่นๆ ควรทานผักและผลไม้ที่มีสีต่างๆ ซึ่งมี 6 สีหลัก ให้มากที่สุด และครบในหนึ่งสัปดาห์”
โดยพืชสีแดง มีสารไลโคปีน และแอนโทไซยานินอยู่สูง
ผักผลไม้สีม่วง มีสารพวก มีสารแอนโทไซยานิน และฟลาโวนอยด์
ผักผลไม้สีน้าเงิน มีสารพวก ฟีโนลิก และแอนโทไซยานิน
ผักผลไม้สีเขียว มีสารพวก ลูทีน และคลอโรฟิลล์
ผักผลไม้สีเหลือง มีสารพวก ลูทีน และวิตามินซี
ผักผลไม้สีส้ม มีสารพวก คาร์โรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์
อาหารประเภทเส้นใย มีองค์ประกอบหลักดังนี้
เส้นใยที่ละลายน้า เช่น อินนูลีน เพคตีน
เส้นใยที่ไม่ละลายน้า เช่น เบตากลูแคนส์ เซลลูโลส ลิกนิน
การทานอาหารที่มีเส้นใย จะลดอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยให้อิ่มท้องและลดน้าหนักตัว ทาให้มีชีวิตที่ยืนยาว หน่วยงานทางอาหารและโภชนาการของสหรัฐอเมริกา แนะนาว่า ควรทานอาหารที่มีเส้นใยอย่างน้อย 20-35 กรัม ในหนึ่งวัน เพื่อสุขภาพที่ดี
นอกจากผักและผลไม้ตามที่แนะนาข้างต้นแล้ว การทานอาหารที่มีเครื่องเทศสูง จะลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง น้ามันหอมระเหยจากกานพลู จากตะไคร้ สามารถป้องกันและยับยั้งเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี ขมิ้น ไพล และพริก สามารถยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด
สุดท้ายเพื่อสุขภาพที่สมบูรณ์และห่างไกลจากโรคมะเร็งและโรคต่างๆ ควรรับประทานเห็ดเช่น เห็ดหอม (ชิทาเก, Shitake) เห็ดไมทาเก (Maitake) เป็นต้น ซึ่งเห็ดเหล่านี้สามารถยับยั้งและฆ่าเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด นอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และหากไม่เป็นการรบกวนเงินในกระเป๋ามากนัก การทานโสม ซึ่งมีสาระสาคัญหลายชนิด เช่น จินเซนโนไซด์ (Ginsenoside) สามารถป้องกันเซลล์มะเร็งตับ ป้องกันการเกิดมะเร็ง ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย และโสมยังมีสารพวกกากใยอาหารที่สูงด้วย
ขอให้ผู้อ่านทุกคนเลือกทานผักผลไม้ที่ดี มีอายุที่ยืนยาวและห่างไกลจากมะเร็ง
เอกสารอ้างอิง
1. วิเชษฐ์ ลีลามานิตย์ เอกสารประกอบคาบรรยายเรื่องผักและผลไม้ป้องกันมะเร็ง ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2557 (Thailand Research Expo 2014)” วิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น